จากที่ตกลงกันไว้นะค่ะว่า....ทริปต่อๆไปจะพาไปเืี่ที่ยวทางภาคเหนือ แต่ก่อนจะขึ้นไปถึงทางเหนือ เราก็มาแวะระหว่างทางหาที่เที่ยวขึ้นไปเรื่อยๆนะค่ะ ทริปนี้ตั้งใจจะไปเพชรบูรณ์ จาก กทม.ไปสิงห์บุรี แล้วใช้เส้นทางหลวง 205 โคกสําโรง-ชัยบาดาล ผ่านมาถึง บ.เพนียด ก็มาสะดุดกับทุ่งทานตะวันข้างทางที่เห็น...
วันแรกของการเดินทาง...ก็มาหาที่พักที่เขาค้อ ก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ก็มาได้ที่กางเต้นท์ด้านหลังหน้าผาชมวิวหลังพระตําหนักเขาค้อ
เช้าออกเดินทางต่อไปทุ่งนางพญา
ระหว่างเส้นทาง ผ่านมาเห็นแคมป์ปิ่งรีสอร์ท
style อินเดียนแดง สวยน่ารัก
เข้าเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง-ทุ่งนางพญา-แก่งวังนํ้าเย็น.
จากหน้าหน่วย อช.เข้าไปแก่งวังนํ้าเย็น ประมาณ 12 กม.
มาเจอเต่าคลานอยู่ที่กลางถนน น่ารักและน่าส่งสาร เลยจับเอาไปปล่อยที่แก่งค่ะ ก่อนที่มันจะร้อนและเหนื่อยตาย
บริเวณแก่งวังนํ้าเย็น นํ้าเ็ย็นสมชื่อจริงๆ
ก็เป็นแก่งหิน กระจัดกระจายขวางลํานํ้าเต็มไปหมด.
ออกจาก อช. ผ่านนํ้าตกศรีดิฐแล้วก็มุ่งหน้าสู้เส้นทางสาย 2196 ผ่านไร่ บี.เอ็น.
ไร่ บี.เอ็น ในอคีตที่ยิ่งใหญ่สําหรับพวกทัวร์
แต่นะเวลานี้ไม่หรือสิ่งที่ดีๆ และสวยงามให้ดูอีกแล้ว....
ตรง 3แยก ถนนสายที่ 21 พิษณุโลก-หล่มสัก
เห็นวัดพุทธธรรมสถาน ผาซ่อนแก้วอยู่บนเนิน
แต่ไม่ได้แวะเข้าไป.
เส้นทางขึ้นภูทับเบิกคดเคี้ยว โค้ง และสูงชัน
ก่อนถึงภูแวะที่หน้ารีสอร์ทฟ้าเพียงดิน
สุดยอดภูที่จะหาที่กางเต้นท์ แต่ลมมันแรงมาก เลยเปลี่ยนใจไปให้ถึงยอดภูทับเบิก
สถานที่กางเต้นท์บนยอดภูทับเบิก
ยอดภูทับเบิกเห็นไกลๆ
ลืมบอกไปว่า ค่ากางเต้นท์คิดคนละ ฿100.- +อาหารเช้าฟรี คือข้าวต้มหมูสับ อร่อยดีค่ะ
หลังอาหารเช้า ขับรถมาดูแปลงผัก.
แปลงสตอเบอรรี่เก็บเองสดๆจากไร่ กิโลละ ฿200.-
บนภูทับเบิก อากาศเย็นสบายดีมากๆ เลยนอนดูเมฆหมอกอยู่ 2คืน.
ทริปหน้าเราจะขับรถลงจากยอดภูทับเบิกแล้วไปเที่ยว จ.เลยต่อนะค่ะ
No comments:
Post a Comment
ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชม blog ค่ะ