Friday, 8 June 2012

นั่งรถไฟจากหนองคายเข้า สปป.ลาว


ทริปนี้...เป็นทริปต่อเนื่องจากแก่งคุดคู้ เชียงคาน ขับรถเลาะริมโขง มาหนองคาย
และอยากจะนั่งรถไฟข้ามโขงไปเวียงจันทร์ ไปเช่ามอเตอร์ไซร์ขับเที่ยวชมเมือง.
ปกติจะขับรถข้ามไป...แต่คราวนี้อยากเปลี่ยนบรรยากาศ แบบชาวเมืองเวียงจันทร์




เส้นทางนี้เป็นเส้นทางสายประวัติศาสตร์ด้วยนะ
พระเทพรัตนสุดาฯ ทรงมาเปิดเส้นทางเมื่อวันที่
5 มีนาคม 2552


มีห้องสมุดรถไฟอยู่ด้านหน้าสถานี ใครอยากหาหนังสืออ่านก็ไปนั่งอ่านดูได้ แต่หนังสือค่อนข้างจะน้อย วันไปนั้น ห้องสมุดปิดอีก

มี passport แล้วก็ไปซื้อตั๋วได้เลย ราคา ฿ 20.-บาท ทั้งชั้น 2 และชั้น 3
มีรถออก 2เที่ยวต่อ 1 วัน คือเวลาเช้า 9.00น. และบ่าย 14.45น.
***แต่เวลามีบอกไว้ เที่ยวแรก 9.00น. แต่รถไฟมา 10.50.น. นี้แหละรถไฟไทย 

 ราคาค่าตั๋ว มีราคาเดียว ฿20.- หนองคาย-ท่านาแร้ง


เที่ยวแรก 9.00 รีบมารอกลัวไม่ทันรถไฟ ไปซื้อตั๋วเจ้าหน้าที่ก็ไม่บอกว่ารถไฟจะมาช้า
เพราะว่ารถไฟที่สถานีหนองคาย จะไปเวียงจันทร์ ต้องรอรถไฟจาก กทม.ที่จะพานักท่องเที่ยวต่างชาติมาถึงสถานีหนองคายก่อน ถึงจะออกได้ ถ้ารถไฟจาก กทม.มาช้าก็ต้องรอ...รอ...แล้วก็รอ
เที่ยวนี้รอจนถึง 10.50น. เกือบเปลี่ยนใจ




ระหว่างรอรถไฟ ก็นั่งดูแผนที่เมืองเวียงจันทร์ไปด้วย


มาแล้ว....รถไฟไทย รอตั้ง 2 ชม.





ทั้งขบวนมีแต่นักท่องเที่ยวต่างชาติ มีคนไทยแค่ 2คน




วิวแม่นํ้าโขง จากหน้าต่างรถไฟ




ถึงแล้วจร้า...สถานีท่านาแร้ง สปป.ลาว

 นั่งรถ 2แถวจากสถานี้รถไฟท่านาแร้งไปส่งที่โรงแรมในเวียงจันทร์ ระยะทาง 20 กม. ฿250.-
แวะเช่ารถมอร์ไซร์ที่ตลาด ราคาวันละ ฿ 270.-



พักที่โรงแรม จันทโสม ริมแม่นํ้าโขง ราคาคืนละ ฿ 580.- รวมอาหารเช้า ก็อเมริกัน breakfast.
ห้องนอนก็ใช้ได้สอาดดี มี ทีวี นํ้าอุ่น wifi






 จากที่พักริมโขงมองเห็น อนุศเสาวรีย์ ท่านท้าวไกรสร พรหมวิหารห่างออกไปประมาณ 300เมตร
ตั้งอยู่ริมนํ้าโขง เป็นสถานที่พักผ่อนของชาวเมืองเวียงจันทร์ มีสนามเด็กเล่น สนามออกกําลังกาย สวนสาธารณะ ที่จอดรถ เลยไปอีกหน่อยติดกัน ก็เป็นถนนคนเดิน night plaza.





ด้านหน้ารูปปั้น ติดริมหาด








ขับมอร์ไซร์เข้าเมือง วนดูร้านค้า ตลาด





มาจอดดูหลังวัดพระธาตุหลวง
 ด้านหน้าวัดพระธาตุหลวง
 จากนั้นมาที่ซุ้มประตูชัย มาดูไฟยามคํ่าคืน


 ยามคํ่าคืน ที่บริเวณนี้ดูสวยงามดีมาก ได้บรรยากาศ....




ไปที่ถนนคนเดิน night plaza ซึ้งอยู่ที่ริมนํ้าโขง




มีของขายมากมายหลากหลาย ส่วนมากจะเป็นพวกเสื้อผ้าต่างๆของพื้นเมือง ของฝากนักท่องเที่ยว
 หิวแล้วค่ะ เดินมาเจอร้านหมูจุ่มนํ้าจิ่มแจ่วหน้าวัด ฝั่งตรงข้ามกับ night plaza


สั่งมา 1ชุด พร้อมเบียร์ลาว 2 ขวด
หมดไป 1แสน 7 หมื่นกีบ
ประมาณ ฿ 700.-บาท










เฃ้าตื่นมาก็ออกไปที่ตลาดเช้า
 ตึกหลังคาเขียวๆนั้นแหละค่ะตัวตลาดเช้า ชั้นบนขายของเกี่ยวกับเครื่องเงิน ทอง ส่วนชั้นล่างขายของทั่วไป ของต่างประเทศ ติดๆกันมีห้างสรรพสินค้าเปิดใหม่ 2-3แห่ง แต่ยังไม่ค่อยมีคนเข้าไปทําการค้า และห้างสรรพสินค้าที่เวียงจันทร์ จะปิด 6โมงเย็น เพราะฉะนั้น อย่าหวังไปเดินหาอะไรกินในห้างตอนดึกๆ หรือเดินดูของ





 แวะซื้อขนมปัง french bread.ของชอบไปทาน มีขายอยู่หน้าสถานีรถ บขส.ที่ติดกับตลาดเช้า







หลังจากนั้นไปวัดสีเมือง


 ออกจาก วัดสีเมือง ก็มาต่อที่ วัดสีสะเกด.


บริเวณรอบๆศาลา

 มีพระพุทธรูป ตั้งเรียงรายให้เคารพบูชาอยู่รอบๆ


ออกจากวัด ก็ได้เวลาเดินทางกลับ มาซื้อตั๋วรถบัสกลับไปที่สะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว




รถบัสข้ามมาส่งฝั่งไทย คนละ ฿20.-




ถึงฝั่งหนองคายบ้านเราแล้ว

 ไปแวะเที่ยวตลาดท่าเสด็จริมนํ้าหนองคาย
ก็มีของขายทั่วไป ของจะดูดีและหน้าซื้อกว่าฝั่งลาวเยอะเลยค่ะ

 และที่ขาดไม่ได้เมื่อมาถึงหนองคาย ก็ต้องแวะรับประทานอาหารที่ร้านนี้เลยค่ะ.

 สําหรับ 2 ที่ เบียร์อีก 2ขวด หมดไป ฿ 640.-
 เสร็จแล้วก็เดินมานอนที่นี้ ติดกันกับร้านแดง ห้องแอร์ติดริมนํ้าโขง ราคา ฿800.-

Sunday, 27 May 2012

ขับรถชมวิวเลาะริมโขง 198กม.จากแก่งคุดคู้ถึงหนองคาย

เรายังคงอยู่ใน จ.เลย อยู่ค่ะ....
เพราะสถานที่จะไปเที่ยวกันต่อนั้น...ห่างจากตัว อ.เชียงคาน แค่ 3 กม.ไม่ไกลเลยใช่ีไหมค่ะ
งั้นเราก็ออกเดินทางไปกันเลย ก็ใช้เส้นทาง แก่งคุดคู้-ปากชม เส้นทางสาย 211 เลาะริมโขง
 

 ก่อนถึงแก่งคุดคู้เล้กน้อย จะพบกับวัด รูปทรงของโบส์ถคล้ายวัดในหลวงพระบาง เป็นวัดของหลวงปู่ชอบ ซึ่งเป็นเกกิอาจารย์ที่เคารพนับถือ....
ตรงหน้ากุฏิหลังเก่าแก่ มีป้ายเขียนว่า หลวงปู่ชอบ
ก็เข้าไปมนัสการขอพร ให้เดินทางปลอดภัย













ด้านหลังวัดติดกับลํานํ้าโขง







บริเวณร้านขายของริมโขงและบริเวณที่ขายของแถวที่จอดรถ

ส่วนตรงนี้ก็เป็นสถานที่ ที่ทุกคนมาเที่ยวแก่งคุดคู้ต้องมาถ่ายรูปตรงนี้ ส่วนด้านล่างเป็นหาดทราย มีร้านอาหาร และก็มีเรือให้เช่าเหมาลํา ชมแก่งหิน ไป-กลับ ก็ประมาณ 1ชม.ราคาเหมาลําก็แล้วแต่จะตกลงกัน
ส่้วนใครข้องใจเรื่องค่าโดยสารเรือเหมาลําไปชมแก่ง ก็อ่านดูอัตรากัน...เห็นป้ายติดอยู่ทางบันไดท่าลงเรือ
บริเวณร้านค้าขายของฝากที่นี้ ส่วนมากจะเป็นมะพร้าวแก้ว หวาน หอม อร่อย หลากหลายสีสรร
และก็ร้านขายผ้าห่มผ้านวมที่ขึ้นชื่อของที่นี้ ที่มีขายมานมนานนับ 20 ปี ที่เคยผ่านมาแล้วค่ะ



หน้าหาดทรายด้านทางลง สามารถ ขับรถลงไปถึงท่านํ้าหาดทรายเพื่อกินอาหารบนหาด และ ลงเรือชมวิวได้
 แก่งคุดคู้ เป็นแก่งหินที่กระจายอยู่กลางลํานํ้าโขงตรงส่วนโค้งของลํานํ้าพอดี ทําให้นํ้าตรงส่วนนี้ไหลแรงและเชี่ยว ฤดูที่เหมาะแก่การมาเที่ยวชม ก็ระหว่างเดือน กุมภา-พฤกษภา นํ้าไม่มาก ถ้ามาช่วงเดือนที่มีนํ้าเต็มฝั่ง จะมองไม่เห็นแก่งหิน


ส่วนด้านหลังแก่งจะมีรีสอร์ท สําหรับนักท่องเที่ยวมากมาย แล้วแต่จะเลือกพัก หรือจะเช่าที่กางเต้นท์ที่เอามากางเองก็ได้
 ส่วนคืนนี้ นอนที่นี้ค่ะ ราคาคืนละ ฿1200.- ห่างจากแก่งมาประมาณไม่เกิน7-800เมตร
สะอาด เรียบร้อย สงบเงียบดี




ออกเดินทางแต่เช้าจากรีสอร์ทที่แก่งคุดคู้ ก็ใช้เสันทาง 211 ไปทาง อ.ศรีเชียงใหม่ หนองคาย





















 มาถึงตลาดปากชมอยู่ริมนํ้าโขง เป็นตลาดไม่ใหญ่ เดินดูของและวิวริมนํ้า

 ออกเดินทางต่อไป อ.สังคม
ทางเส้นนี้ ข้างซ้ายจะเห็นวิวริมแม่นํ้าโขงตลอด และด้านขวาจะเป็นไร่ และภูเขา และก็มีบ้านเรือนเป็นระยะไปตลอด แถวนี้นิยมปลูกต้นมะม่วง
เห็นมีแต่ไร่มะม่วงมากกว่าอย่างอื่น







 บางช่วงจะเห็นแก่งกลางนํ้าสวยกว่าที่แก่งคุดคู้อีก



ก่อนถึงอ.ศรีเชียงใหม่ 30 กม และห่างจากหนองคาย 75 กม. ระหว่างทาง จะเจอกับวัด หินหมากเป้ง ซึ้งเป็นวัดของหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
ศิษย์ของหลวงปู่มั่น
วัดตั้งอยู่ที่บ้านไทยเจริญ ต.พระพุทธบาท จ.หนองคาย
ภายในศาลาเล็กติดริมโขง ข้างในนี้มีรูปเหมือนหุ่นขี้ผึ้งของหลวงปู่เทสก์ ให้กราบบูชา


ฝั่งตรงข้ามวัดหินหมากเป้ง ก็มีวัดของ ลาว อยู่ตรงข้ามกัน






เรือหาปลาชาวบ้านวางเบ็ดราวอยู่กลางลํานํ้าโขง





เจอฝรี่งชาวเยอรมัน กับชาวญี่ปุ่นขี่มอร์ไซร์บิกไบร์มาเที่ยว และสอบถามเส้นทางจะไปเชียงคาน
ด้านข้างบริเวณหินหมากเป้งฝั่งไทยริมนํ้าโขงวิวสวยดี
เย็นนี้เราก็มาถึงหนองคาย คืนนี้นอนพักที่ รีสอร์ทริมนํ้าโขงที่หนองคาย
แล้วพรุ่งนี้เราจะนั่งรถไปเข้าไปเที่ยวเวียงจันทร์กันต่อ